หน่วยที่ 1 ระบบสังคมและโครงสร้างสังคม
แนวคิด
1.ระบบสังคมหมายถึง ระบบความสัมพันธ์ของคนจำนวน 2 คนขึ้นไป ในระบบสังคมหนึ่งๆอาจประกอบด้วยคนจำนวนน้อยจนถึงจำนวนมากเป็นสังคมใหญ่ ในทุกระบบสังคมจะมีลักษณะพื้นฐานที่เหมือนกัน คือ มีการจัดระเบียบความสัมพันธ์ หรือการจัดระเบียบสังคม หรือโครงสร้างทางสังคมนั่นเองโดยมีส่วนประกอบที่สำคัญยิ่งคือ บรรทัดฐานและสถานภาพ
2.ในทางสังคมวิทยา มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในสังคมช่วยให้เราเข้าใจถึงบทบาท สถานภาพ และตำแหน่งหน้าที่ของตนเองที่สัมพันธ์กับผู้อื่น ในสังคมปัจจุบันความรู้สึกของความเป็นชุมชนเริ่มลดหายไป งานนิเทศศาสตร์จึงต้องทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในสังคม ตลอดจนเป็นช่องทางให้ปัจเจกบุคคลได้เข้าร่วมกับชีวิตสาธารณะของสังคม
1.1แนวคิดเกี่ยวกับระบบสังคมและโครงสร้างสังคม
- ระบบสังคมหมายถึง ระบบความสัมพันธ์ของคนในสังคม ทุกระบบสังคมจะมีการจัดระเบียบสังคมหรือโครงสร้างสังคมซึ่งเป็นแบบแผนหรือกฎเกณฑ์ทั้งหลายในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับกลุ่ม องค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างสังคมคือ บทบาทและสถานภาพ
- ฐานะ เป็นเครื่องบ่งบอกที่สำคัญประการหนึ่งในการแบ่งความแตกต่างทางชนชั้นของกลุ่มคนโดยพิจารณาความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ขณะที่ อำนาจ คือความสามารถในการทำหรือผลจากการกระทำต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด ส่วนเรื่องเพศมี 2 คำที่แตกต่างกันคือ เพศ ซึ่งเป็นความหมายทางสรีรวิทยาว่าเป็นชายหรือหญิง กับเพศสภาพ เป็นการแบ่งความแตกต่างของชายหญิงจากพฤติกรรมและอัตลักษณ์โดยสังคม
- สถานภาพ หมายถึง ตำแหน่งของบุคคลในกลุ่ม สถานภาพทางสังคมแบ่งเป็น 2 ระดับคือ สถานภาพที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และสถานภาพสัมฤทธิ์อันเป็นสภาพที่หามาได้ บุคคลสามารถควบคุมและเลือกสถานภาพชนิดได้ เช่น การเลือกอาชีพ เลือกคู่ครอง ส่วน บทบาท คือสิทธิและหน้าที่ที่เกี่ยวพันกับสถานภาพ กล่าวคือ ในแต่ละสถานภาพย่อมมีบทบาทที่แตกต่างกัน สำหรับ ชนชั้น เป็นแนวคิดพื้นฐานที่ใช้อธบายความมีโอกาสของชีวิตที่แตกต่างกัน ในสังคมปัจจุบันการจัดลำดับชนชั้นขึ้นอยู่กับสิทธิทางกฎหมายและรายได้
- การเปลี่ยนแปลงฐานะทางสังคม หมายถึง การเปลี่ยนแปลงระดับชั้นทางสังคมของบุคคลหรือกลุ่ม โดยมากการวัดการเปลี่ยนแปลงฐานะทางสังคมมักจะวัดที่เกียรติภูมิของการประกอบอาชีพกับปัจจัยอื่นๆ เช่น การศึกษา รายได้
- การสร้างความแตกต่างทางสังคมและเศรษฐกิจทำให้คนในสังคมมีการแบ่งระดับกัน เกิดความไม่เท่าเทียมกัน มีการจัดลำดับชนชั้น สำหรับสังคมไทยการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกันเป็นภาพของความเหลื่อมล้ำของสังคมที่ปรากฎชัดเจน
**การสร้างความแตกต่างทางสังคมและเศรษฐกิจจะทำให้เกิด มีการแบ่งระดับของคน เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม โดยเฉพาะทางรายได้และทรัพย์สิน มีการจัดลำดับชนชั้น การกระจายรายได้ไม่เท่าเทียมกัน การครอบงำทางสังคม การกลายเป็นคนชายขอบ
1.2 สังคมวิทยากับงานนิเทศศาสตร์
- สถานภาพที่แตกต่างกันของบุคคลในสังคมส่งผลให้เกิดความแตกต่างในการเข้าถึงความรู้ ข้อมูล ข่าวสารต่างๆรวมทั้งการใช้ประโยชน์จากข่าวสาร โดยเฉพาะในเศรษฐกิจทุนนิยม ผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจดีมักเป็นผู้ที่ได้ใช้ประโยชน์จากช่องทางการสื่อสารมากกว่าคนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจต่ำ
- ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความไม่เสมอภาคของการเข้าถึงสารสนเทศและความรู้ ได้แก่ ปัจจัยเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศ ความแตกต่างของลักษณะประชากร และนโยบายของรัฐบาล
- นักนิเทศศาสตร์ในฐานะเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดข่าวสารไปยังกลุ่มคนต่างๆ ในสังคมควรทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในยุคปัจจุบัน อันเป็นยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้า ข่าวสารเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงความคิด ฉะนั้นยุคนี้จะใช้ความรู้และข้อมูลข่าวสารเป็นทรัพยากร สังคมยุคนี้จึงเป็นสังคมสารสนเทศ โดยที่สารสนเทศเป็นหัวใจสำคัญทางเศรษฐกิจด้วย
- รูปแบบในการอธิบายปรากฏการณ์ของสังคมสารสนเทศมีหลายรูปแบบ ได้แก่ รูปแบบทางเศรษฐกิจ รูปแบบทางเทคโนโลยี รูปแบบทางสังคมวิทยา และรูปแบบทางประวัติศาสตร์
- ในสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำ ผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจหรือสถานภาพทางการเมืองและสังคมต่ำกว่ามักจะต้องพึ่งพาและอยู่ใต้อาณัติของผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมที่สูงกว่า ตัวอย่าง ของความไม่เทียมกันในการเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากข่าวสาร เช่น กรณีของผู้ที่อยู่ชายขอบซึ่งขาดสิทธิขาดเสียงในการใช้ประโยชน์จากข่าวสาร ในฐานะนักนิเทศศาสตร์ต้องนำเสนอข่าวสารที่สร้างความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกชนชั้น และรู้เท่าทันความต้องการใช้ประโยชน์จากข่าวสารของคนในสังคม โดยเฉพาะผู้ที่ขาดโอกาสหรือผู้ที่ไม่ได้รับความเสมอภาค
แนวคิด
1.ระบบสังคมหมายถึง ระบบความสัมพันธ์ของคนจำนวน 2 คนขึ้นไป ในระบบสังคมหนึ่งๆอาจประกอบด้วยคนจำนวนน้อยจนถึงจำนวนมากเป็นสังคมใหญ่ ในทุกระบบสังคมจะมีลักษณะพื้นฐานที่เหมือนกัน คือ มีการจัดระเบียบความสัมพันธ์ หรือการจัดระเบียบสังคม หรือโครงสร้างทางสังคมนั่นเองโดยมีส่วนประกอบที่สำคัญยิ่งคือ บรรทัดฐานและสถานภาพ
2.ในทางสังคมวิทยา มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในสังคมช่วยให้เราเข้าใจถึงบทบาท สถานภาพ และตำแหน่งหน้าที่ของตนเองที่สัมพันธ์กับผู้อื่น ในสังคมปัจจุบันความรู้สึกของความเป็นชุมชนเริ่มลดหายไป งานนิเทศศาสตร์จึงต้องทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในสังคม ตลอดจนเป็นช่องทางให้ปัจเจกบุคคลได้เข้าร่วมกับชีวิตสาธารณะของสังคม
1.1แนวคิดเกี่ยวกับระบบสังคมและโครงสร้างสังคม
- ระบบสังคมหมายถึง ระบบความสัมพันธ์ของคนในสังคม ทุกระบบสังคมจะมีการจัดระเบียบสังคมหรือโครงสร้างสังคมซึ่งเป็นแบบแผนหรือกฎเกณฑ์ทั้งหลายในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับกลุ่ม องค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างสังคมคือ บทบาทและสถานภาพ
- ฐานะ เป็นเครื่องบ่งบอกที่สำคัญประการหนึ่งในการแบ่งความแตกต่างทางชนชั้นของกลุ่มคนโดยพิจารณาความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ขณะที่ อำนาจ คือความสามารถในการทำหรือผลจากการกระทำต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด ส่วนเรื่องเพศมี 2 คำที่แตกต่างกันคือ เพศ ซึ่งเป็นความหมายทางสรีรวิทยาว่าเป็นชายหรือหญิง กับเพศสภาพ เป็นการแบ่งความแตกต่างของชายหญิงจากพฤติกรรมและอัตลักษณ์โดยสังคม
- สถานภาพ หมายถึง ตำแหน่งของบุคคลในกลุ่ม สถานภาพทางสังคมแบ่งเป็น 2 ระดับคือ สถานภาพที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และสถานภาพสัมฤทธิ์อันเป็นสภาพที่หามาได้ บุคคลสามารถควบคุมและเลือกสถานภาพชนิดได้ เช่น การเลือกอาชีพ เลือกคู่ครอง ส่วน บทบาท คือสิทธิและหน้าที่ที่เกี่ยวพันกับสถานภาพ กล่าวคือ ในแต่ละสถานภาพย่อมมีบทบาทที่แตกต่างกัน สำหรับ ชนชั้น เป็นแนวคิดพื้นฐานที่ใช้อธบายความมีโอกาสของชีวิตที่แตกต่างกัน ในสังคมปัจจุบันการจัดลำดับชนชั้นขึ้นอยู่กับสิทธิทางกฎหมายและรายได้
- การเปลี่ยนแปลงฐานะทางสังคม หมายถึง การเปลี่ยนแปลงระดับชั้นทางสังคมของบุคคลหรือกลุ่ม โดยมากการวัดการเปลี่ยนแปลงฐานะทางสังคมมักจะวัดที่เกียรติภูมิของการประกอบอาชีพกับปัจจัยอื่นๆ เช่น การศึกษา รายได้
- การสร้างความแตกต่างทางสังคมและเศรษฐกิจทำให้คนในสังคมมีการแบ่งระดับกัน เกิดความไม่เท่าเทียมกัน มีการจัดลำดับชนชั้น สำหรับสังคมไทยการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกันเป็นภาพของความเหลื่อมล้ำของสังคมที่ปรากฎชัดเจน
**การสร้างความแตกต่างทางสังคมและเศรษฐกิจจะทำให้เกิด มีการแบ่งระดับของคน เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม โดยเฉพาะทางรายได้และทรัพย์สิน มีการจัดลำดับชนชั้น การกระจายรายได้ไม่เท่าเทียมกัน การครอบงำทางสังคม การกลายเป็นคนชายขอบ
1.2 สังคมวิทยากับงานนิเทศศาสตร์
- สถานภาพที่แตกต่างกันของบุคคลในสังคมส่งผลให้เกิดความแตกต่างในการเข้าถึงความรู้ ข้อมูล ข่าวสารต่างๆรวมทั้งการใช้ประโยชน์จากข่าวสาร โดยเฉพาะในเศรษฐกิจทุนนิยม ผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจดีมักเป็นผู้ที่ได้ใช้ประโยชน์จากช่องทางการสื่อสารมากกว่าคนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจต่ำ
- ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความไม่เสมอภาคของการเข้าถึงสารสนเทศและความรู้ ได้แก่ ปัจจัยเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศ ความแตกต่างของลักษณะประชากร และนโยบายของรัฐบาล
- นักนิเทศศาสตร์ในฐานะเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดข่าวสารไปยังกลุ่มคนต่างๆ ในสังคมควรทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในยุคปัจจุบัน อันเป็นยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้า ข่าวสารเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงความคิด ฉะนั้นยุคนี้จะใช้ความรู้และข้อมูลข่าวสารเป็นทรัพยากร สังคมยุคนี้จึงเป็นสังคมสารสนเทศ โดยที่สารสนเทศเป็นหัวใจสำคัญทางเศรษฐกิจด้วย
- รูปแบบในการอธิบายปรากฏการณ์ของสังคมสารสนเทศมีหลายรูปแบบ ได้แก่ รูปแบบทางเศรษฐกิจ รูปแบบทางเทคโนโลยี รูปแบบทางสังคมวิทยา และรูปแบบทางประวัติศาสตร์
- ในสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำ ผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจหรือสถานภาพทางการเมืองและสังคมต่ำกว่ามักจะต้องพึ่งพาและอยู่ใต้อาณัติของผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมที่สูงกว่า ตัวอย่าง ของความไม่เทียมกันในการเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากข่าวสาร เช่น กรณีของผู้ที่อยู่ชายขอบซึ่งขาดสิทธิขาดเสียงในการใช้ประโยชน์จากข่าวสาร ในฐานะนักนิเทศศาสตร์ต้องนำเสนอข่าวสารที่สร้างความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกชนชั้น และรู้เท่าทันความต้องการใช้ประโยชน์จากข่าวสารของคนในสังคม โดยเฉพาะผู้ที่ขาดโอกาสหรือผู้ที่ไม่ได้รับความเสมอภาค
แก้ไขล่าสุดโดย dj.soda เมื่อ Sun Apr 04, 2010 9:21 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง