มาช้าหน่อยค่ะเทอมนี้งานเยอะไม่มีเวลาอ่านเลย ว่าจะไม่เอามาโพสเมลล์ถามกันเยอะเลยจะพยายามนะคะ ขอบคุณด้วยสำหรับทุกคนที่ให้กำลังใจและติดตามผลงานค่ะ เป็นกำลังใจให้สำหรับทุกคนด้วยและต้องขออภัยสำหรับหลายๆวิชาที่หาให้ไม่ได้และโพสให้ไม่ทันบางวิชาผ่านแบบฟลุคๆไม่ได้อ่านไม่ได้จดเลยไม่มีมาให้อ่านนะคะ
เริ่มกันเลยดีกว่า
หน่วยที่ 1 สื่อมวลชนกับสังคม
แนวคิด
1.การพัฒนาสังคม หมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่าหรือดีขึ้น (change for better)ซึ่งคำว่าดีขึ้นหรือดีกว่านั้นอาจมีความหมายในแง่มุมที่ต่างกันไป สื่อเข้าไปมีบทบาทต่อคนในสังคมเป็นอย่างมาก นักวิชาการ นักการศึกษา จากศาสตร์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข หรือระบบสังคม และวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆในสังคม ได้สรุปว่าการสื่อสารเป็นตัวแปรหรือปัจจัยที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
2.สถาบันสื่อสารมวลชน เป็นสถาบันที่เกี่ยวข้องกับส่วนต่างๆมากมายนับตั้งแต่ปัจเจกบุคคลผู้ปฏิบัติงานสื่อมวลชน อาทิ ผู้สื่อข่าวหรือบุคคลผู้รับสารไปจนถึงหน่วยงานองค์กรและสถาบันอื่นๆ อาทิ สถาบันที่สำคัญแห่งหนึ่งในสังคม สื่อมวลชนก็จะถูกกำหนดบทบาทและหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อสังคมในเรื่องหรือในด้านต่างๆ
1.1แนวคิดเกี่ยวกับสื่อมวลชนกับการพัฒนาสังคม
-สังคมพัฒนาไปในทิศทางใดนั้น แนวคิดสุดท้ายที่หลายสังคมมักถือเป็นคำตอบที่ดีที่สุดก็คือการผสมผสานกันระหว่างกาารพัฒนาสังคมด้านวัตถุและจิตใจไปพร้อมๆกัน
-สื่อมวลชน ถือได้ว่าเป็นสื่อที่มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ทั้งนี้ เนื่องจากคุณลักษณะและธรรมชาติของสื่อมวลชนที่สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากในเวลาเดียวกันหรือในเวลาใกล้เคียงกัน ความน่าสนใจ ความกว้างขวาง และความครอบคลุมของสื่อมวลชนจึงทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมทั้งในระดับเล็ก คือระดับปัจเจกบุคคล และรัดับใหญ่ สื่อเป็นสถาบันหนึ่งที่มีความสำคัญในสังคม และมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสถาบันอื่นๆอันได้แก่ สถาบันทางการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม
-สื่อเป็นสถาบันที่มีความสำตัญในสังคม และมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสถบันอื่นๆอันได้แก่ สถาบันทางการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งจะพบได้ว่าสถาบันเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีบทบาทในการควบคุม การดำเนินงานของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมสื่อทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมในเรื่องของบุคลากรที่มีอาชีพทางการสื่อสาร ที่จะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นไปตามกฏหมาย กฏระเบียบ จริยธรรม จรรยาบรรณทางสังคม หรือมีส่วนในการกำหนดบทบาทหน้าที่ของประชาชนในสังคมจากการสื่อสารที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างง่ายและรวดเร็ว
***ยุคเกษตรกรรม สถาบันสวนไร่นามีอาชีพเกษตรกรรม สื่อสารด้วยปาก ระบบสังคมวัฒนธรรมเป็นแบบปิด เทคโนโลยีต่ำ อำนาจอยู่ที่กำลัง
ยุคอุตสาหกรรม สถาบันโรงงาน อาชีพพนักงานโรงงาน ข่าวสาร ติดต่อโดยสื่อสารมวลชน ใช้เทคโนโลยีระดับสูง อำนาจอยู่ที่เงิน
ยุคข้อมูลข่าวสาร สถาบันการศึกษา วิจัยและพัฒนา อาชีพเจ้าหน้าที่ด้านข้อมูล สังคมแบบเปิด เทคโนโลยีระดับกลาง อำนาจอยู่ที่ข้อมูลข่าวสาร
***ยุคสังคมสื่อสาร เทคโนโลยีไมโครอีเล็กทรอนิกส์ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าสื่อใหม่ มีคุณสมบัติคือ
- เป็นสื่อที่มีลักษณะตอบโต้ได้ (interactive media) เกิดการสื่อสาร 2 ทาง
- เป็นสื่อที่ทำให้ผู้ส่งสารและผู้รับสาารพบกันง่ายขึ้น (asynchronous) โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่
- เป็นสื่อที่ลดความเป็นมวลชนลง (dsmassifile) และเพิ่มโอกาสของการส่งข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะให้กับปัจเจกบุคคลมากขึ้น
1.2แนวคิดเกี่ยวกับสื่อมวลชน
สื่อมวลชนมีลักษณะพิเศษ คือ ผลิตโดยองค์กรหรือสถาบันทางสื่ิอสารมวลชนที่เป็นที่ยอมรับมีความน่าเชื่อถือสูง อาศัยความเป็นมืออาชีพ ช่องทางบรรจุข้อมูลหลากหลาย ตอบสนองสังคมได้หลากหลาย ส่วนใหญ่ใช้ความพิถีพิถันในการผลิต มีผลกระทบต่อปัจเจกบุคคลและัสังคม ถ่ายทอดอย่างเปิดเผยและเป็นสาธารณะ
สื่อมวลชนมี 2 ประเภทใหญ่ๆคือ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
วิวัฒนาการของสื่อมวลชน
-สื่อสิ่งพิมพ์ถือกำเนิดใน คริตศตวรรษที่ 17 ในยุโรป และเิกิดขึ้นในคริตศตวรรษที่ 18
เทคโนโลยีการพิมเริ่มขึ้นเมื่อ คศ.15ชาวเกากลีสร้างแท่นพิมพ์แบบ metal และปี 1450 โจฮานกูเต็นเบิก ได้ประดิษฐ์แท่นพิมพ์แบบเคลื่อนที่
-สื่อบันทึกเสียงและสื่อภาพยนตร์ โทมัส เอดิสัน ได้พัฒนาเครื่องบันทึกภาพ ปี 1887 การบันทึกภาพเกิดขึ้น และถูกพัฒนาเป็นการบันทึกเสียง เทปแม่เหล็กเกิดขึ้นปี 1920 ถูกใช้ในรูปแบบเทปคาสเส็ทในปี1960 ปี 1948 เครื่องเล่นเทปถูกผลิตขึ้นโดย บ.โคลัมเบียร์ รีคอร์ด ปี 1980 มีการประดิษฐ์คอมแพ็คดิส (cd) หลุยส์เซียน่า ประดิษฐ์เครื่องบันทึกภาพยนตร์ และพัฒนาเป็นภาพเคลื่อนไหว
-สื่อกระจายเสียง วิทยุเป็นสื่อกระจายเสียงสื่อแรก และพัฒนาเป็นสื่อโทรทัศน์ บ.ไพโอเนียเป็นผู้บุกเบิกสื่อโทรทัน์ในอเมริกา 1940 ภายใต้โฆษณาว่า เรากำลังนำปฏิบัติการใหม่สู่บ้านคุณ
-สื่อใหม่ เช่น เคเบิลทีวี ดาวเทียม เทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติค และคอมพิวเตอร์
1.2บทบาทของสื่อมวลชน
-นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนหลายท่านที่ได้ระบุบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนไว้หลายแง่มุม ซึ่งจะได้เรียบเรียงแนวคิดนับตั้งแต่ปรัชญาของบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชน ไปจนถึงแนววคิดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในมิติต่างๆ เช่น ทฤษฎีบรรทัดฐานของสื่อมวลชน เป็นทฤษฎีที่อธิบายบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในฐานะที่เป็นสถาบันทางสังคม ที่มองว่าสื่อมวลชนกับสังคมมีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิด โดยสื่อมวลชนจะมีบทบาทในสังคมหลายด้าน เช่น เป็นผลผลิตของสังคม สะท้อนของสังคม ผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ เป็นต้น
-บทบาทวิชาชีพของสื่อมวลชนแขนงต่างๆได้ถูกกำหนดโดยการนำเสนอเนื้อหานั้นๆเช่น หนังสือพิมพ์มีเกณฑ์ด้านคุณสมบัติการเสนอข่าวดังนี้ ความเป็นกลาง ยุติธรรม สมดุล ถูกต้อง กระชับและชัดเจน
-สื่อมวลชนเป็นสถาบันหนึ่งในสังคมและมีผลต่อสถาบันอื่นๆ ได้แก่ สถาบันทางการเมือง เศษรฐกิจ สังคม
-ระบบสื่อมวลชนก่อให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจ และการใช้อำนาจของสื่ออย่างไร้ขอบเขต จนทำให้เกิดกระแสการเรียกร้องให้สื่อมวลชนมีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการระบุถึงสิ่งที่สื่อมวลชนพึงกระทำ โดยการควบคุมจากภาครัฐ ประชาชน และองค์กรของสื่อด้วยกันเอง
**ระบบสื่อมวลชนตามทฤษฎีอำนาจนิยม ต้องไม่บ่อนทำลายรัฐบาลและองค์กรภาครัฐ ต้องอยู่ภายใต้อำนาจรัฐ ไม่ทำลายค่านิยมทางศีลธรรมและการเมืองของคนส่วนใหญ่
**ระบบสื่อตามทฤษฎีอิสรภาพนิยม เป็นเครื่องมือแสดงความคิดเห็นของบุคคล แสดงสัจจะหรือแสวงหาข้อเท็จจริงของสังคม ตรวจสอบรัฐ เจ้าหน้าที่ พรรคการเมือง โดยการสอดส่อง วิพากษ์วิจารย์ แจ้งข่าวสารบันเทิงและการค้า
**ระบบสื่อมวลชนตามทฤษฎีความรับผิดชอบทางสังคม ให้บริการแก่ระบบการเมือง ให้ข่าวสารโต้เถียงในเรื่องส่วนรวมหรือสาธารณะ ส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตย พิทักษ์รักษาสิทธฺ์ของบุคลล เฝ้าดูรัฐบาล ให้บริการแก่ระบบเศรษฐกิจ เน้นประโยชน์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่เสนอเรื่องราวที่นำไปสู่อาชญากรรมหรือความรุนแรง สะท้อนความคิดเห็นของสังคม
บมบาททางวิชาชีพของสื่่่่อหนังสือพิมพ์
-เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ระแวดระวังภัยให้สังคม เป็นนายประตูข่าว คัดสรรข่าวเพื่อเสนอให้ประชาชนรับทราบ เป็นผู้กำหนดวาระข่าวสาร จัดประเด็นเรื่องเพื่อให้สังคมสนใจ เป็นกระจก สะท้อนความจริงต่างๆ
บทบาทหน้าทีี่ของสื่อวิทยุโทรทัศน์ ค้นหาและนำเสนอความจริง สนองงานด้านศิลปะ วัฒนธรรมและความบันเทิงเพื่อเสนอความงาม กระจายอำนาจเสริมสร้างสิทธิเสียงและอำนาจต่อรองของกลุ่มที่ถูกเอารักเอาเปรียบ ถ่ายทอดเนื้อหาด้านข่าวสารบ้านเมืองและความบันเทิงรูปแบบต่างๆ
บทบาทหน้าที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ ชยายผัสสะของปัจเจกบุคคลให้กว้างไกล เพื่อมช่องทางพิเศษในการสื่อสาร สร้างความสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายระหว่างคนในสังคม ทำหน้าที่แทนมนุษย์เพื่อให้เกิดสังคมเสมือน เป็นเครื่องมือในการสร้างกระบวนการทางการผลิต เป็นตุลาการตัดสินความถูกต้อง สร้างมาตรฐานให้สังคม แสดงอัตลักษณ์ของกลุ่ม
***บทบาทของสื่อมวลชนกับสถาบันต่างๆในสังคม
-ทางการเมือง ช่วยในกระบวนการเปลี่ยนแปลงอำนาจจากกรรมพันธ์หรือสายเลือดมาเป็นความสัมฤทธิผลในสังคมที่กำลังพัฒนา กระตุ้นผู้นำตามแบบประเพณีโบราณให้รักษาอำนาจของตน กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วใทางการเมือง ช่วยรัฐบาลเรียนรู้ความต้องการของประชาชน ทราบแผนการดำเนินงานต่างๆของรัฐ สร้างเอกภาพให้แก่ชาติก่อให้เกิดความเสมอภาคและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
-ทางเศรษฐกิจ หาทางเลือกในการประกอบอาชีพ ลดความกดดันในที่ดินทำกิน ช่วยยกสถานภาพทางเศรษฐกิจของครอบครัว ก่อให้เกิดความต้องการสินค้า กระตุ้นการริเริ่มในท้องถิ่น ขยายฐานของการค้าให้กว้างขึ้น
-ทางสังคม เปลี่ยนแปลงสถานถาพ กระตุ้นให้คนอ่านออกเขียนไำด้ ลดความสำคัญของอายุและสถานภาพทางประเพณี ต่อสู้แข่งขันเพื่อรักษาสถานภาพของตนไว้ ชักจูงให้ส่งบุตรหลานเข้าเรียน ค้นพบบรรทัดฐานใหม่ เกิดความเสมอภาค
เริ่มกันเลยดีกว่า
หน่วยที่ 1 สื่อมวลชนกับสังคม
แนวคิด
1.การพัฒนาสังคม หมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่าหรือดีขึ้น (change for better)ซึ่งคำว่าดีขึ้นหรือดีกว่านั้นอาจมีความหมายในแง่มุมที่ต่างกันไป สื่อเข้าไปมีบทบาทต่อคนในสังคมเป็นอย่างมาก นักวิชาการ นักการศึกษา จากศาสตร์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข หรือระบบสังคม และวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆในสังคม ได้สรุปว่าการสื่อสารเป็นตัวแปรหรือปัจจัยที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
2.สถาบันสื่อสารมวลชน เป็นสถาบันที่เกี่ยวข้องกับส่วนต่างๆมากมายนับตั้งแต่ปัจเจกบุคคลผู้ปฏิบัติงานสื่อมวลชน อาทิ ผู้สื่อข่าวหรือบุคคลผู้รับสารไปจนถึงหน่วยงานองค์กรและสถาบันอื่นๆ อาทิ สถาบันที่สำคัญแห่งหนึ่งในสังคม สื่อมวลชนก็จะถูกกำหนดบทบาทและหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อสังคมในเรื่องหรือในด้านต่างๆ
1.1แนวคิดเกี่ยวกับสื่อมวลชนกับการพัฒนาสังคม
-สังคมพัฒนาไปในทิศทางใดนั้น แนวคิดสุดท้ายที่หลายสังคมมักถือเป็นคำตอบที่ดีที่สุดก็คือการผสมผสานกันระหว่างกาารพัฒนาสังคมด้านวัตถุและจิตใจไปพร้อมๆกัน
-สื่อมวลชน ถือได้ว่าเป็นสื่อที่มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ทั้งนี้ เนื่องจากคุณลักษณะและธรรมชาติของสื่อมวลชนที่สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากในเวลาเดียวกันหรือในเวลาใกล้เคียงกัน ความน่าสนใจ ความกว้างขวาง และความครอบคลุมของสื่อมวลชนจึงทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมทั้งในระดับเล็ก คือระดับปัจเจกบุคคล และรัดับใหญ่ สื่อเป็นสถาบันหนึ่งที่มีความสำคัญในสังคม และมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสถาบันอื่นๆอันได้แก่ สถาบันทางการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม
-สื่อเป็นสถาบันที่มีความสำตัญในสังคม และมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสถบันอื่นๆอันได้แก่ สถาบันทางการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งจะพบได้ว่าสถาบันเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีบทบาทในการควบคุม การดำเนินงานของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมสื่อทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมในเรื่องของบุคลากรที่มีอาชีพทางการสื่อสาร ที่จะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นไปตามกฏหมาย กฏระเบียบ จริยธรรม จรรยาบรรณทางสังคม หรือมีส่วนในการกำหนดบทบาทหน้าที่ของประชาชนในสังคมจากการสื่อสารที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างง่ายและรวดเร็ว
***ยุคเกษตรกรรม สถาบันสวนไร่นามีอาชีพเกษตรกรรม สื่อสารด้วยปาก ระบบสังคมวัฒนธรรมเป็นแบบปิด เทคโนโลยีต่ำ อำนาจอยู่ที่กำลัง
ยุคอุตสาหกรรม สถาบันโรงงาน อาชีพพนักงานโรงงาน ข่าวสาร ติดต่อโดยสื่อสารมวลชน ใช้เทคโนโลยีระดับสูง อำนาจอยู่ที่เงิน
ยุคข้อมูลข่าวสาร สถาบันการศึกษา วิจัยและพัฒนา อาชีพเจ้าหน้าที่ด้านข้อมูล สังคมแบบเปิด เทคโนโลยีระดับกลาง อำนาจอยู่ที่ข้อมูลข่าวสาร
***ยุคสังคมสื่อสาร เทคโนโลยีไมโครอีเล็กทรอนิกส์ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าสื่อใหม่ มีคุณสมบัติคือ
- เป็นสื่อที่มีลักษณะตอบโต้ได้ (interactive media) เกิดการสื่อสาร 2 ทาง
- เป็นสื่อที่ทำให้ผู้ส่งสารและผู้รับสาารพบกันง่ายขึ้น (asynchronous) โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่
- เป็นสื่อที่ลดความเป็นมวลชนลง (dsmassifile) และเพิ่มโอกาสของการส่งข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะให้กับปัจเจกบุคคลมากขึ้น
1.2แนวคิดเกี่ยวกับสื่อมวลชน
สื่อมวลชนมีลักษณะพิเศษ คือ ผลิตโดยองค์กรหรือสถาบันทางสื่ิอสารมวลชนที่เป็นที่ยอมรับมีความน่าเชื่อถือสูง อาศัยความเป็นมืออาชีพ ช่องทางบรรจุข้อมูลหลากหลาย ตอบสนองสังคมได้หลากหลาย ส่วนใหญ่ใช้ความพิถีพิถันในการผลิต มีผลกระทบต่อปัจเจกบุคคลและัสังคม ถ่ายทอดอย่างเปิดเผยและเป็นสาธารณะ
สื่อมวลชนมี 2 ประเภทใหญ่ๆคือ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
วิวัฒนาการของสื่อมวลชน
-สื่อสิ่งพิมพ์ถือกำเนิดใน คริตศตวรรษที่ 17 ในยุโรป และเิกิดขึ้นในคริตศตวรรษที่ 18
เทคโนโลยีการพิมเริ่มขึ้นเมื่อ คศ.15ชาวเกากลีสร้างแท่นพิมพ์แบบ metal และปี 1450 โจฮานกูเต็นเบิก ได้ประดิษฐ์แท่นพิมพ์แบบเคลื่อนที่
-สื่อบันทึกเสียงและสื่อภาพยนตร์ โทมัส เอดิสัน ได้พัฒนาเครื่องบันทึกภาพ ปี 1887 การบันทึกภาพเกิดขึ้น และถูกพัฒนาเป็นการบันทึกเสียง เทปแม่เหล็กเกิดขึ้นปี 1920 ถูกใช้ในรูปแบบเทปคาสเส็ทในปี1960 ปี 1948 เครื่องเล่นเทปถูกผลิตขึ้นโดย บ.โคลัมเบียร์ รีคอร์ด ปี 1980 มีการประดิษฐ์คอมแพ็คดิส (cd) หลุยส์เซียน่า ประดิษฐ์เครื่องบันทึกภาพยนตร์ และพัฒนาเป็นภาพเคลื่อนไหว
-สื่อกระจายเสียง วิทยุเป็นสื่อกระจายเสียงสื่อแรก และพัฒนาเป็นสื่อโทรทัศน์ บ.ไพโอเนียเป็นผู้บุกเบิกสื่อโทรทัน์ในอเมริกา 1940 ภายใต้โฆษณาว่า เรากำลังนำปฏิบัติการใหม่สู่บ้านคุณ
-สื่อใหม่ เช่น เคเบิลทีวี ดาวเทียม เทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติค และคอมพิวเตอร์
1.2บทบาทของสื่อมวลชน
-นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนหลายท่านที่ได้ระบุบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนไว้หลายแง่มุม ซึ่งจะได้เรียบเรียงแนวคิดนับตั้งแต่ปรัชญาของบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชน ไปจนถึงแนววคิดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในมิติต่างๆ เช่น ทฤษฎีบรรทัดฐานของสื่อมวลชน เป็นทฤษฎีที่อธิบายบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในฐานะที่เป็นสถาบันทางสังคม ที่มองว่าสื่อมวลชนกับสังคมมีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิด โดยสื่อมวลชนจะมีบทบาทในสังคมหลายด้าน เช่น เป็นผลผลิตของสังคม สะท้อนของสังคม ผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ เป็นต้น
-บทบาทวิชาชีพของสื่อมวลชนแขนงต่างๆได้ถูกกำหนดโดยการนำเสนอเนื้อหานั้นๆเช่น หนังสือพิมพ์มีเกณฑ์ด้านคุณสมบัติการเสนอข่าวดังนี้ ความเป็นกลาง ยุติธรรม สมดุล ถูกต้อง กระชับและชัดเจน
-สื่อมวลชนเป็นสถาบันหนึ่งในสังคมและมีผลต่อสถาบันอื่นๆ ได้แก่ สถาบันทางการเมือง เศษรฐกิจ สังคม
-ระบบสื่อมวลชนก่อให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจ และการใช้อำนาจของสื่ออย่างไร้ขอบเขต จนทำให้เกิดกระแสการเรียกร้องให้สื่อมวลชนมีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการระบุถึงสิ่งที่สื่อมวลชนพึงกระทำ โดยการควบคุมจากภาครัฐ ประชาชน และองค์กรของสื่อด้วยกันเอง
**ระบบสื่อมวลชนตามทฤษฎีอำนาจนิยม ต้องไม่บ่อนทำลายรัฐบาลและองค์กรภาครัฐ ต้องอยู่ภายใต้อำนาจรัฐ ไม่ทำลายค่านิยมทางศีลธรรมและการเมืองของคนส่วนใหญ่
**ระบบสื่อตามทฤษฎีอิสรภาพนิยม เป็นเครื่องมือแสดงความคิดเห็นของบุคคล แสดงสัจจะหรือแสวงหาข้อเท็จจริงของสังคม ตรวจสอบรัฐ เจ้าหน้าที่ พรรคการเมือง โดยการสอดส่อง วิพากษ์วิจารย์ แจ้งข่าวสารบันเทิงและการค้า
**ระบบสื่อมวลชนตามทฤษฎีความรับผิดชอบทางสังคม ให้บริการแก่ระบบการเมือง ให้ข่าวสารโต้เถียงในเรื่องส่วนรวมหรือสาธารณะ ส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตย พิทักษ์รักษาสิทธฺ์ของบุคลล เฝ้าดูรัฐบาล ให้บริการแก่ระบบเศรษฐกิจ เน้นประโยชน์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่เสนอเรื่องราวที่นำไปสู่อาชญากรรมหรือความรุนแรง สะท้อนความคิดเห็นของสังคม
บมบาททางวิชาชีพของสื่่่่อหนังสือพิมพ์
-เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ระแวดระวังภัยให้สังคม เป็นนายประตูข่าว คัดสรรข่าวเพื่อเสนอให้ประชาชนรับทราบ เป็นผู้กำหนดวาระข่าวสาร จัดประเด็นเรื่องเพื่อให้สังคมสนใจ เป็นกระจก สะท้อนความจริงต่างๆ
บทบาทหน้าทีี่ของสื่อวิทยุโทรทัศน์ ค้นหาและนำเสนอความจริง สนองงานด้านศิลปะ วัฒนธรรมและความบันเทิงเพื่อเสนอความงาม กระจายอำนาจเสริมสร้างสิทธิเสียงและอำนาจต่อรองของกลุ่มที่ถูกเอารักเอาเปรียบ ถ่ายทอดเนื้อหาด้านข่าวสารบ้านเมืองและความบันเทิงรูปแบบต่างๆ
บทบาทหน้าที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ ชยายผัสสะของปัจเจกบุคคลให้กว้างไกล เพื่อมช่องทางพิเศษในการสื่อสาร สร้างความสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายระหว่างคนในสังคม ทำหน้าที่แทนมนุษย์เพื่อให้เกิดสังคมเสมือน เป็นเครื่องมือในการสร้างกระบวนการทางการผลิต เป็นตุลาการตัดสินความถูกต้อง สร้างมาตรฐานให้สังคม แสดงอัตลักษณ์ของกลุ่ม
***บทบาทของสื่อมวลชนกับสถาบันต่างๆในสังคม
-ทางการเมือง ช่วยในกระบวนการเปลี่ยนแปลงอำนาจจากกรรมพันธ์หรือสายเลือดมาเป็นความสัมฤทธิผลในสังคมที่กำลังพัฒนา กระตุ้นผู้นำตามแบบประเพณีโบราณให้รักษาอำนาจของตน กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วใทางการเมือง ช่วยรัฐบาลเรียนรู้ความต้องการของประชาชน ทราบแผนการดำเนินงานต่างๆของรัฐ สร้างเอกภาพให้แก่ชาติก่อให้เกิดความเสมอภาคและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
-ทางเศรษฐกิจ หาทางเลือกในการประกอบอาชีพ ลดความกดดันในที่ดินทำกิน ช่วยยกสถานภาพทางเศรษฐกิจของครอบครัว ก่อให้เกิดความต้องการสินค้า กระตุ้นการริเริ่มในท้องถิ่น ขยายฐานของการค้าให้กว้างขึ้น
-ทางสังคม เปลี่ยนแปลงสถานถาพ กระตุ้นให้คนอ่านออกเขียนไำด้ ลดความสำคัญของอายุและสถานภาพทางประเพณี ต่อสู้แข่งขันเพื่อรักษาสถานภาพของตนไว้ ชักจูงให้ส่งบุตรหลานเข้าเรียน ค้นพบบรรทัดฐานใหม่ เกิดความเสมอภาค
แก้ไขล่าสุดโดย dj.soda เมื่อ Tue Oct 19, 2010 11:56 pm, ทั้งหมด 6 ครั้ง