41321
กฎหมายพาณิชย์ 1
ข้อ 1
ก. รับซื้อรถยนต์นั่งจาก ข. โดยรู้ว่า ข. ลักมาจากบุคคลอื่น ต่อมาภายหลัง ค. เจ้าของรถเรียกร้องขอรถคืนจาก ก. ก. จึงเรียกร้องให้ ข.รับผิดเพราะการที่ ข. ลักมาจาก ค. นั้น เป็นความผิดทางอาญา ข. ผู้ขายโต้แย้งว่า ข. ไม่ต้องรับผิดเพราะ ก. รู้ดีว่า ข. ลักรถมาท่านเห็นด้วยกับ ข. หรือข้อโต้แย้งของ ข.
เฉลย
ตาม ปพพ. มาตรา 475 ถ้ามีบุคคลใดมาก่อการรบกวนขัดสิทธิของผู้ซื้อในอันจะครองทรัพย์ สินโดยปกติสุข เพราะบุคคลผู้นั้นแม้สิทธิ์เหนือทรัพย์สินที่ได้ซื้อขายกันนั้น อยู่ในเวลาขายพอดี เพราะความผิดของผู้ขายก็ดี ผู้ขายจะต้องรับผิดและตามมาตรา 476 ถ้าสิทธิ์ของผู้ก่อการรบกวนนั้นผู้ซื้อรู้อยู่แล้วในเวลาซื้อขา ยผู้ขายไม่ต้องรับผิดการที่ ค. เจ้าของรถมาเรียกรถคืนจาก ก. เป็นการก่อการรสบกวนขัดสิทธิของ ก. ผู้ซื้อในอันที่จะครองรถโดยปกติสุข เพราะ ค. มีสิทธิเหนือรถยนต์ที่ได้ซื้อขายกันอยู่นั้นเวลาซื้อขาย จึงเป็นการรอนสิทธิของ ก. ผู้ซื้อแต่ ก. ก็รู้ดีว่า ข. ลักรถนั้นมา จึงไม่ต้องรับผิดตามมาตรา 476ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยกับ ก แต่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้ง
กฎหมายพาณิชย์ 1
ข้อ 1
ก. รับซื้อรถยนต์นั่งจาก ข. โดยรู้ว่า ข. ลักมาจากบุคคลอื่น ต่อมาภายหลัง ค. เจ้าของรถเรียกร้องขอรถคืนจาก ก. ก. จึงเรียกร้องให้ ข.รับผิดเพราะการที่ ข. ลักมาจาก ค. นั้น เป็นความผิดทางอาญา ข. ผู้ขายโต้แย้งว่า ข. ไม่ต้องรับผิดเพราะ ก. รู้ดีว่า ข. ลักรถมาท่านเห็นด้วยกับ ข. หรือข้อโต้แย้งของ ข.
เฉลย
ตาม ปพพ. มาตรา 475 ถ้ามีบุคคลใดมาก่อการรบกวนขัดสิทธิของผู้ซื้อในอันจะครองทรัพย์ สินโดยปกติสุข เพราะบุคคลผู้นั้นแม้สิทธิ์เหนือทรัพย์สินที่ได้ซื้อขายกันนั้น อยู่ในเวลาขายพอดี เพราะความผิดของผู้ขายก็ดี ผู้ขายจะต้องรับผิดและตามมาตรา 476 ถ้าสิทธิ์ของผู้ก่อการรบกวนนั้นผู้ซื้อรู้อยู่แล้วในเวลาซื้อขา ยผู้ขายไม่ต้องรับผิดการที่ ค. เจ้าของรถมาเรียกรถคืนจาก ก. เป็นการก่อการรสบกวนขัดสิทธิของ ก. ผู้ซื้อในอันที่จะครองรถโดยปกติสุข เพราะ ค. มีสิทธิเหนือรถยนต์ที่ได้ซื้อขายกันอยู่นั้นเวลาซื้อขาย จึงเป็นการรอนสิทธิของ ก. ผู้ซื้อแต่ ก. ก็รู้ดีว่า ข. ลักรถนั้นมา จึงไม่ต้องรับผิดตามมาตรา 476ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยกับ ก แต่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้ง